การปรับ Windows ให้เหมาะกับฮาร์ดิสต์แบบ SSD

Solid State Disk หรือที่เรียกย่อ ๆ กันว่า SSD เป็นหน่วยบันทึกข้อมูลแบบใหม่ที่เริ่มใช้กันแบบแพร่หลายประมาณปี 2008 ที่ Macbook Air นำมาใส...


Solid State Disk หรือที่เรียกย่อ ๆ กันว่า SSD เป็นหน่วยบันทึกข้อมูลแบบใหม่ที่เริ่มใช้กันแบบแพร่หลายประมาณปี 2008 ที่ Macbook Air นำมาใส่เครื่องเป็นครั้งแรก ข้อดีของ SSD ที่เรียกได้ว่า ชนะฮาร์ดดิสก์แบบเก่าอย่างท่วมท้น ก็คือ ความเร็วในการอ่าน/เขียน อย่างชนิดเรียกเต่ากับกระต่ายยังไม่พอ ต้องขอเรียกว่า สามล้อกะจรวดเลยทีเดียว

ปัจจุบันหลายคนอาจจะสงสัย ว่า CPU ก็เร็วแบบมี 8 แกนสมองเข้าไปแล้ว .. แรมก็ยัดที 4-8 GB ทำไมเวลาคอมพิวเตอร์บูทขึ้นมายังต้องรอตั้งเป็นนาทีอยู่อีก สาเหตุสำคัญก็เพราะว่า มันมีฮาร์ดดิสก์ถ่วงระบบอยู่ครับ ในขณะที่ตัว CPU กับ แรม วิ่งด้วยความเร็วระดับ nanosec กันแล้ว  แต่ฮาร์ดดิสก์ยังวิ่งแค่ระดับ second เฉย ๆ อยู่เลย ซึ่งยกตัวอย่างถ้าเราใช้ HDD แบบ 7200 รอบที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย จะมีความเร็วในการส่งข้อมูลประมาณ 80-100 MB/วินาที เท่านั้นครับ แถมยังเสียเวลาไปกับค่า Access Time หรือ ค่าที่จะต้องปั่นตัวจานแม่เหล็กให้ได้รอบ เพื่อให้ตรงกับเข็มอ่านข้อมูลอีกต่างหาก ซึ่งค่า Access Time ตรงนี้ ถึงแม้จะทำงานในความเร็วระดับ 0.x วินาที แต่มันต้องทำบ่อยมาก เพราะข้อมูลของเรากระจัดกระจายไปมาทั่วฮาร์ดดิสก์ครับ

แล้วการใช้ SSD เป็นยังไง?
SSD ใช้หน่วยความจำแบบ Flash Memory ซึ่งถ้าเปรียบง่าย ๆ ก็คือ เอา Flashdrive รุ่นที่เป็นชิปความเร็วสูงมาต่อเชื่อมกันหลาย ๆ แผ่น และใช้ Controller ในการสั่งงานเขียนว่า จะ Block ไหนว่าง ก็ไปเขียนไปอ่าน ตามที่เราต้องการ ซึ่ง SSD ในยุคแรก ๆ ถึงแม้ว่าความเร็วจะเร็วกว่าฮาร์ดดิสก์แบบเก่าไม่เท่าไหร่ นั่นก็คือ 150-180 MB/วินาที แค่นั้นก็หรูมากแล้ว เพราะว่า การใช้งาน SSD แทบไม่เสียเวลา Access Time เลย เพราะข้อมูลทั้งหมดเป็นไฟฟ้าวิ่งตรงไปยัง Block ของมันครับ ทำให้ค่า Access time ของ SSD ต่ำกว่าฮาร์ดดิสก์เป็น 10 เท่า นั่นก็คือ 0.0x ต่อวินาทีนั่นเอง (ค่า X แปรผันตามรุ่นของ SSD)

ถ้าอยากจะใช้ SSD จะต้องรู้อะไรบ้าง
SSD มีการทำงานที่ไม่เหมือน Harddisk ดังนั้นถ้าจะใช้งานมันจะต้องรู้จักการทำงานของมันเพื่อปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการทำงานกันบ้าง
  1. อายุการใช้งานของ SSD ขึ้นอยู่กับการเขียน ยิ่งเขียนมาก ยิ่งเสื่อมเร็ว เพราะมันเป็น Cell เหมือนกับพวก Flashdrive ไม่ใช่จานแม่เหล็กเหมือน Harddisk ซึ่งพวก Harddisk เนี่ย แค่ส่งคลื่นแม่เหล็กไปปรับค่าในจานแม่เหล็กก็จบแล้ว แต่กับ SSD ที่ใช้ Cell จะมีอายุการทำงานไม่เท่ากันครับ แต่ใช้ไปเหอะ ยังไงคุณก็ใช้ Harddisk ลูกนึง 3 ปีเปลี่ยนทีอยู่ดี แต่อย่าไปตะบี้ตะบันก๊อปรัว ๆ ให้มันเปลือง Quota ของมันเล่นละกันครับ
  2. การใช้งาน SSD ต้องมีการทำ Secure Erase กันซักปีละครั้ง เวลาตัว Controller มันเข้าไปเขียนไฟล์ใน SSD มันจะหา Block ว่าง ๆ เพื่อที่จะเข้าไปเขียน แต่บางทีบาง Cell มันไม่มีข้อมูลอยู่ แต่เข้าไปเขียนไม่ได้ เพราะติดอะไรบางอย่างอยู่ การทำ Secure Erase จะเป็นการไล่ทำความสะอาดเพื่อให้ Cell แต่ละ Cell พร้อมใช้งาน มีค่าสถานะเป็น 0 กลับมาอีกครั้ง 
  3. ใช้งาน SSD บน Windows 7 จะดีที่สุด เพราะใน Windows 7 จะมีความสามารถที่ชื่อว่า TRIM .. ซึ่งก่อนจะเล่าความสามารถนี้ เราจะต้องบอกก่อนว่า ใน Harddisk เวลาเราลบไฟล์ ไฟล์มันจะไม่หายนะครับ แค่ Windows มันรับรู้ว่า พื้นที่ของ Harddisk นี้เขียนทับได้เฉยๆ ซึ่งก็เป็นข้อดีที่ทำให้บรรดาโปรแกรมกู้ไฟล์สามารถกู้ไฟล์มาได้นั่นเอง แต่กับ SSD นั้นไม่เหมือนกัน เพราะตัว Controller จะพยายามหาพื้นที่ว่างจริงๆ เท่านั้นในการเขียนข้อมูล แต่ดันไปเจอพื้นที่ๆมีแต่ข้อมูลถึง Windows จะบอกว่าเขียนทับได้แต่ตัว Controller มันทำไม่ได้ครับ นานๆเข้าไป  ทำให้ตัว SSD ทำงานช้าลงเรื่อยๆ ความสามารถ TRIM ใน Windows 7 ก็คือ เวลาไฟล์ไหนถูกลบ มันจะลบหายไปจริงๆเลย ทำให้พื้นที่ว่าง เป็นพื้นที่ว่างจริง ๆ  ดังนั้น ไฟล์ที่ลบใน SSD นี่กู้ไม่ได้นะจ๊ะ ซึ่งถึงแม้ TRIM จะช่วยได้เยอะ แต่ก็ต้องทำ Secure Erase เหมือนกัน
  4. เวลาใช้งาน SSD ไม่ต้องทำ Defragment การ Defragment ก็คือ การให้ตัว Windows เอาข้อมูลใน Harddisk ที่กระจัดกระจายตาม Sector ต่างๆมาเรียงต่อเนื่องกันเพื่อให้หัวอ่านของ Harddisk สามารถอ่านข้อมูลกันได้อย่างต่อเนื่องเพื่อลดค่า Access Time ในการที่ให้หัวอ่านทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แต่การกระทำแบบนั้นบน SSD ถือว่าผิดมหันต์เพราะเราเอา SSD ไปใช้เขียนข้อมูลโดยเสียเวลาเปล่าๆ โดยที่ไม่ได้ความเร็วมากขึ้นเลยครับ 
  5. SSD มีการทำ Garbage Collector การทำ Garbage Collector ของ SSD ก็เปรียบกับการทำ Defragment น่ะแหละ มันคือการไล่เปลี่ยนพื้นที่ของ Cell ที่ไม่ได้มีการเรียกใช้ข้อมูลแล้วให้กลายเป็น 0 เพื่อที่จะให้ตัว Controller มาเขียนข้อมูลได้อีกครั้ง เพราะบางครั้งเราใช้ TRIM จัดการไปแล้วแต่มันยังเหลือ Header บางส่วนอยู่ ตรงนี้ SSD ที่มีระบบ Garbage Collector ก็จะสามารถจัดการตรงนี้โดยอัตโนมัติ 

ปรับแต่งการทำงานของวินโดว์ส: ยกเลิกฟีเจอร์ที่ไม่เกิดประโยชน์

1) ปิดการ Defragment ทิ้งไปได้เลย

สิ่งสำคัญหนึ่งที่ผู้ใช้ SSD ห้ามทำคือการทำ Defragment เพราะจะทำให้อายุการใช้งานของ Cell ลดลงเพราะปกติ SSD จะมี Controller เอาไว้จัดเรียงการเขียนไฟล์เพื่อบันทึกข้อมูลเก็บเอาไว้ใน SSD อยู่แล้ว ดังนั้นการ Defragment ก็จะเร่งความเสียหายให้ SSD มากขึ้นเท่านั้น โดยการปิด Defragment นั้นให้เราคลิกขวาที่ไดรฟ์ SSD ของเรา เลือก Properties > Tools ก่อนจะกดที่ปุ่ม Defragment Now (ในภาพนั้น Windows 8 จะเปลี่ยนชื่อเป็นคำสั่ง Optimise Drives) จากนั้นให้กดที่ Configure schedule… (หรือ Change Settings ของ Windows 8) แล้วติ๊กถูกช่อง Run on a schedule (recommend) ทิ้งไปแล้วกด OK จากนั้นก็ใช้งานได้ตามปกติ 


2) ปิดการใช้งาน Services บางตัว

Services ก็เป็นอีกนึงการทำงานของวินโดวส์ที่มีค่าดีฟอลต์ให้ทำงานอัตโนมัติ เราก็ควรปิดในบาง Services ที่ไม่ควรใช้กับ SSD
     ที่หน้าต่าง Computer Management แต่ให้คลิก Services and Applications > Services


Services แรกที่ต้องปิดคือ Disk Defragmenter วิธีปิด Services ทำได้โดยดับเบิลที่ Services จะมีหน้าต่าง Properties ของ Services เปิดออกมาที่ Startup type จะมีค่าการทำงานของ Service ขณะนั้นอยู่ให้เลือกเป็น Disabled แล้วคลิกปุ่ม Start เพื่อให้สถานะการทำงานอยู่ในโหมด Disable (ปิดการทำงาน)
นอกจากจาก Disk Defragmenter ยังต้องไปตาม Disable ตัว Services อื่น ๆ อีก ดังนี้ Offline Files, Superfetch, Windows Backup และ  Windows Search วิธีการก็ลักษณะเดียวกับ Disk Defragmenter

3) ปิด System Restore

System Restore เป็นฟีเจอร์ของวินโดวส์ที่จะเก็บจุดคืนกลับของวินโดวส์เป็นระยะ ๆ และกินพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ซึ่งพื้นที่แต่ละ byte ของ SSD นั้นแพงมากเมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์จานหมุน ฉะนั้นปิดซะ เอาพื้นที่มาเก็บข้อมูลอื่น ๆ ดีกว่า
     1. คลิกขวาที่ไอคอน Computer เลือดคำสั่ง Properties
     2. ที่หน้าต่าง System ให้คลิก System protection


     3. ที่หน้าต่าง System Properties ให้คลิกที่ไดร์ฟ C: แล้วคลิกที่ Configure..


     4. ต่อมาให้คลิกเลือกทำเครื่องหมายจุดที่ Turn off system protection และที่ Disk Space Usage รายการ Max Usage ให้เลื่อนสไลด์บาร์มาด้านซ้ายมือสุด คลิก Delete 



     5. จะมีคำเตือนจากวินโดวส์ว่าระบบจะไม่สามารถย้อนกลับคืนค่าเก่าได้พร้อมทั้งจะลบ Restore point ที่มีอยู่ก่อนหน้า ให้คลิก Continue 

4) ย้าย Page file ไปไดรฟ์อื่น

Page file คือ หน่วยความจำเสมือนที่ทำหน้าที่คล้าย RAM (Random Access Memory) แต่ใช้เนื้อที่ของฮาร์ดดิสก์แทน โดยใช้เวลาในการเข้าถึงข้อมูลช้ากว่า Page file นี้มีมาตั้งแต่สมัย  Windows 3.11 ซึ่งขนาดของมัน ถ้าหากไม่ได้ตั้งค่าอะไรเองก็จะถูกกำหนดโดยวินโดวส์โดยคำนวณจากหน่วยความจำ (RAM) ที่เครื่องมีอยู่ สำหรับ SSD ที่ลงวินโดวส์ไม่ควรมี Page file เพราะจะมีการเขียนข้อมูลซ้ำบ่อย ทำให้มีผลต่ออายุการใช้งาน สมควรย้ายออกไปอยู่ที่ไดรฟ์อื่นที่ไม่ใช่ SSD
     1. จากขั้นตอน ปิด System Restore ที่ผ่านมาเรายังอยู่ที่หน้าต่าง System Properties ให้คลิกที่แท็บ Advanced แล้วคลิกที่ Settings ภายใต้หัวข้อ Performance



     2. จะมาที่หน้าต่าง Performance Options ให้คลิกที่แท็บ Advanced ที่หัวข้อ Virtual memory ให้คลิกที่ Change...

     3. ทำการยกเลิก Page file ในไดร์ฟ C โดยคลิกเลือกที่ C แล้วคลิกเลือกทำเครื่องหมายจุดที No paging file แล้วคลิกที่  Set


     4. ทำการย้าย Page file ไปไว้ที่ไดรฟ์อื่น ที่เป็นฮาร์ดดิสก์ทั่วไป โดยคลิกเลือกไดรฟ์ที่ต้องการ ในรูปจะเป็น D แล้วคลิกทำเครื่องหมายจุดที่ System managed size แล้วคลิกที่ Set  เพื่อให้วินโดวส์กำหนดขนาดของ Page file เอง แต่ถ้าจะกำหนดเองก็ได้ โดยเลือกที่ Custom size แล้วใส่ค่าใน Initial size และ Maximum size โดยค่าที่กำหนด ให้ดูจากหัวข้อ Total paging file size for all drives ในส่วนของ Recommended ดูว่าวินโดวส์ต้องการไฟล์ขนาดเท่าไหร่ โดยมีหลักคำนวณคร่าว ๆ ของค่า Maximum size จะเป็น 1.5 เท่า ของแรม (RAM) ที่มีอยู่ ยกตัวอย่าง เช่น มีแรมอยู่ 4GB ก็จะเป็น 6144  (4 x 1.5 x 1024) และค่า Initial size จะเป็นค่าแรม (4 x 1024)

5) จัดการย้าย Temp files

Temp files คือ ไฟล์ข้อมูลที่สร้างขึ้นในหน่วยความจำหรือในฮาร์ดดิสก์โดยวินโดวส์หรือ โปรแกรมอื่นๆ เพื่อใช้ในระหว่างการทำงาน เมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็จะลบไป แต่มักจะลบไม่หมดเหลือเป็นซากไฟล์ขยะในฮาร์ดดิสก์  Temp files ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่สมควรอยู่ใน SSD
     1. เสร็จจาก ย้าย Page file กลับมาที่หน้าต่าง System Properties ไปที่แท็บ Advanced คลิกที่ Environment Variables



     2. ทำการเปลี่ยนที่เก็บ Temp file ที่ User variables for  xxxx โดยเลือกคลิกที่ TEMP และ TMP แล้วคลิก Edit



     3. เปลี่ยนที่เก็บไฟล์ในช่อง Variable value ให้เป็นไดร์ฟอื่น เช่น D:Temp และ D:TMP


6) ยกเลิก Hibernate

Hibernate เป็นฟีเจอร์ของวินโดวส์ที่จะปิดเครื่องแล้ว เมื่อเปิดมาใหม่วินโดวส์จะเรียกไฟล์หรือโปรแกรมต่างๆ ที่เปิดค้างไว้เมื่อตอนปิดเครื่องครั้งก่อนขึ้นทำงานทันที ช่วยให้เราทำงานได้รวดเร็วขึ้น แต่ก็ต้องเสียพื้นที่ใน SSD อันมีค่าประกอบกับ SSD มีการทำงานที่เร็วมากในการเรียกโปรแกรมมาใช้งาน เราก็ไม่จำเป็นใช้งาน Hibernate ในแบบฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนอีก
     1. คลิกปุ่ม Start เลือก All Programs เลือกไปที่ Accessories  คลิกขวาที่ Command Prompt เลือก Run as administrator



     2. หน้าต่าง Command Prompt จะเปิดออกมา ให้พิมพ์คำสั่ง powercfg -h off  แล้ว Enter
ไฟล์ hiberfil.sys (ไฟล์ของ Hibernate )ใน C จะถูกลบและการใช้งาน Hibernate จะถูกยกเลิก


7) ปิด Sleep Mode

Sleep Mode สำหรับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ก็เป็นสิ่งที่ควรทำเพราะเมื่อวินโดวส์ไม่มีการใช้งานเป็นระยะเวลานึ่ง ระบบก็จะสั่งให้ฮาร์ดดิสก์หยุดทำงานเพื่อประหยัดพลังงานและช่วยยืดอายุการ ใช้งานของฮาร์ดดิสก์ (ไม่ต้องหมุนตลอดเวลา) แต่ SSD ไม่มีส่วนใดที่เคลื่อนไหวกินพลังงานก็น้อยมาก เมื่อไม่ได้ใช้งานก็ยิ่งน้อยเข้าไปอีก ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ฟีเจอร์นี้ ในส่วนของฮาร์ดดิสก์
     1. คลิกปุ่ม Start พิมพ์ power options ลงในช่องว่าง Search แล้ว Enter



     2. ที่หน้าต่าง Power Options ให้คลิกที่ Change plan settings ใน Power plan ที่ใช้งานอยู่


     3. ต่อมาคลิก Change advanced power settings


     4. คลิกเลือกที่ Hard disk จะมีรายการ Turn off hard disk after  สำหรับ Computer (PC) ในรายการย่อย Setting (Minutes) ให้ใส่เลข 0 ลงไป 
     สำหรับ Laptop ในรายการย่อย On battery (Minutes) และ Plugged in (Minutes) ให้ใส่เลข 0 ลงไป 

8) ปิด Index files (ดัชนีในการค้นหาข้อมูล)

Index files  คือการตรวจสอบไฟล์ทั้งหมดที่อยู่บนฮาร์ดดิสก์และมาทำเป็นดัชนี เพื่อการค้นหาไฟล์ในระบบที่รวดเร็ว แต่นั้นก็ต้องแลกด้วยทรัพยากรของเครื่องอย่าง เช่น แรม และพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ที่เก็บไฟล์ Index และจะมีการเขียนข้อมูลซ้ำๆ เกิดขึ้นเกินความจำเป็นสำหรับ SSD 
     1.ให้คลิกขวาที่ไอคอนของไดร์ฟ C เลือกคำสั่ง Properties 
     2.คลิกเอาเครื่องหมายถูกออกจาก Allow files on this drive to have contents indexed in addition to file properties  คลิก Apply



     3.ต่อมาให้คลิกทำเครื่องหมายจุดที่ Apply changes to drive C:, subfolders and files แล้วคลิก OK 

     4.ถ้ามีหน้าต่างเตือนขึ้นมา ให้คลิกที่ Ignore All 


9) ปิด Prefetch

ฟังก์ชันการเตรียมโปรแกรมที่มีการใช้งานบ่อยๆ ของวินโดว์ส ซึ่งกำหนดค่า อยู่ในรีจิสตรี้นี้ แม้ว่ามันจะช่วยให้ระบบทำงานได้เร็วขึ้น แต่เมื่อใช้ฮาร์ดดิสก์ Solid State แล้วมันก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย

10) ตั้งค่า TRIM

สิ่งหนึ่งตอนเราลบไฟล์แล้วยังสามารถกู้ไฟล์กลับมาได้นั้น เพราะตอนลบไฟล์แล้วไฟล์นั้นๆ จะเสียแค่ชื่อของไฟล์ไปเท่านั้น แต่การเปิดระบบ TRIM เอาไว้จะทำให้ตอนเราลบไฟล์แล้วไฟล์นั้นๆ จะหายไปโดยสมบูรณ์ไม่สามารถกู้คืนมาได้ แต่จะรักษาอายุการใช้งานของ SSD ได้นานยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการเปิด TRIM นั้นเราต้องเข้าสู่หน้า Command Prompt ก่อน โดยกด Windows+R พิมพ์คำว่า cmd แล้วหน้า Command Prompt จะเปิดขึ้นมา จากนั้นให้เราพิมพ์คำว่า “fsutil behavior query disabledeletenotify” จากนั้น SSD จะแสดงค่าว่าตอนนี้ TRIM ของเราเป็นแบบไหน ถ้าเป็น 0 แสดงว่า TRIM ถูกเปิดใช้งานอยู่ แต่ถ้าเป็น 1 แสดงว่า TRIM ยังไม่เปิดใช้ ซึ่งถ้าเราต้องการเปิดใช้งานล่ะก็ ให้เราพิมพ์ “fsutil behavior set disabledeletenotify 0″ แล้วระบบจะแจ้งการเปิดใช้งาน TRIM แต่ถ้าใครต้องการปิด TRIM กลับไปเหมือนเดิมก็พิมพ์คำสั่งเมื่อครู่อีกครั้ง แต่เปลี่ยนจากเลข 0 เป็นเลข 1 แทน 

ขอบคุณ

www.notebookspec.com
www.freeware.in.th

COMMENTS

{getFeatured} $label={recent}
ชื่อ

ข่าวไอที,18,Android,34,Blogger,10,Books,1,Gadgets,1,Health,2,Huawei,9,I9100T,1,Joomla,2,Motorcycle,1,Motoring,11,Other,10,P8,9,Pretty,2,S2,1,Software,11,Statistics,3,Tip,20,Travel,1,Tutorial,6,Webmaster,2,
ltr
item
MzA Blog: การปรับ Windows ให้เหมาะกับฮาร์ดิสต์แบบ SSD
การปรับ Windows ให้เหมาะกับฮาร์ดิสต์แบบ SSD
https://1.bp.blogspot.com/-1tmstdMoHHQ/VvOeqHqlb5I/AAAAAAAAH4g/PVUj3VrGre4ay3h3w5y64giJxhP3aDJCw/s640/ssd.jpg
https://1.bp.blogspot.com/-1tmstdMoHHQ/VvOeqHqlb5I/AAAAAAAAH4g/PVUj3VrGre4ay3h3w5y64giJxhP3aDJCw/s72-c/ssd.jpg
MzA Blog
http://msawisit.blogspot.com/2016/03/windows-ssd.html
http://msawisit.blogspot.com/
http://msawisit.blogspot.com/
http://msawisit.blogspot.com/2016/03/windows-ssd.html
true
3606440550594326737
UTF-8
Loaded All Posts Not found any posts VIEW ALL Readmore Reply Cancel reply Delete By Home PAGES POSTS View All RECOMMENDED FOR YOU LABEL ARCHIVE SEARCH ALL POSTS Not found any post match with your request Back Home Sunday Monday Tuesday Wednesday Thursday Friday Saturday Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat January February March April May June July August September October November December Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec just now 1 minute ago $$1$$ minutes ago 1 hour ago $$1$$ hours ago Yesterday $$1$$ days ago $$1$$ weeks ago more than 5 weeks ago Followers Follow THIS PREMIUM CONTENT IS LOCKED STEP 1: Share to a social network STEP 2: Click the link on your social network Copy All Code Select All Code All codes were copied to your clipboard Can not copy the codes / texts, please press [CTRL]+[C] (or CMD+C with Mac) to copy Table of Content